21.8.07

ตามรอยเกาหลีในยุคประวัติศาสตร์ (Korea History)




Pre-20th Century

??- 57 B.C.: Evidence of inhabitants in Korea from as early as 4000 BC exists in Korea. Legend has that the man-god Tan Gun founded the Joseon (meaning Land of the Morning Calm) Kingdom in 2333 BC. Almost no centralized communities existed from then until three kingdoms emerged in the 1st century BC.

57 B.C. - 668 A.D.: The Three Kingdoms of Silla, Goguryeo, and Baekje had similar ethnic and linguistic backgrounds. Koguryo occupied the northern part of the peninsula from the Chinese border to the Han River, while Silla and Baekche dominated the southern regions. All three kingdoms were heavily influenced by China, and Buddhism was introduced to Koguryo in 372. Various alliances were formed either with or against the Chinese until 660 when Silla allied with China to overthrow Baekje. Goguryeo fell shortly afterwards in 668.

668 - 935: The Silla Kingdom period marked the start of Korea's cultural development. Buddhism expanded and furled the construction of numerous temples and art works. However, despite Chinese influences, Silla remained largely tribal in culture. Society divided into distinct classes with a large semi-slave population supporting an aristocratic minority. Warlords began amassing power bases to the north and eventually took over Silla and founded a new kingdom- Goryeo.

918 - 1392: Korea's English name was derived during the Goryeo period. At this time the government codified the laws and introduced a civil service system. During this time Buddhism flourished and spread throughout the peninsula. Like other kingdoms before it, Koryo was also subject to internal strife and external threats, most notably from the Mongols who had taken over China. In 1231 the Mongols invaded Korea, forcing the royal family to flee to Kanghwa Island near Seoul. After 25 years of struggle, the royal family finally surrendered. The following 150 years saw continued Goryeo rule, but under the control of the Mongols. As the Mongols declined in power, so too did Goryeo. In 1392 a Korean general, Yi, Song-gye, was sent to China to campaign against the Ming rulers. Instead, he allied himself with the Chinese, returned to overthrow the Korean king, and setup his own dynasty. During this time, Korea also perfected the art of celadon pottery.

1392 - 1910 The ruler of the Yi Dynasty (also known as the Joseon Dynasty) moved the capital to Hanyang-gun (today's Seoul) in 1394 and adopted Confucianism as the country's official religion. As a result, Buddhists lost much of their wealth and power. It was during this period that the Korean alphabet, Hangeul, was invented by King Sejong the Great. This period also had its share of external problems, suffering invasions by the Japanese (1592-1598) and the Manchus (1627-1636). With the arrival of Japanese and Western traders in the 19th century, the Korean rulers tried to prevent the opening of the country to foreign trade by closing the borders, earning Korea its nickname of the Hermit Kingdom. Beginning in 1876, the Japanese forced a series of Western-style trade agreements on Korea, leading to Japan's eventual annexation of the country in 1910. Due to growing anti-Japanese sentiment, in 1897 King Kojong declared himself to be emperor of the Taehan Empire, an independent Korea. However, during the Russo-Japanese War (1904-1905), Japanese forces moved onto the peninsula, despite Korean declarations of neutrality. The signing of the Japan-Korea Protection Treaty in 1905 gave Japan virtual control over Korea, and in 1910 a Korean royal proclamation announced the annexation by Japan.


สุสานกษัตริย์ห่าวไทหวัง องค์ที่ 19 ของโกกุเรียวหรืออีกนามหนึ่ง คือ Hotaewang (Taewang)
ซึ่งหลังจากสิ้นพระชนม์ ได้รับการสถาปนาให้เป็น มหาราช King Gwanggaeto The Great






อาณาจักรแรกของเกาหลี สถาปนาขึ้นโดย "ทันกุน" เรียกว่า สมัยโคโชซอน เริ่มมีการรวมตัวของชุมชนเป็นนครรัฐ และต่อมาจึงแบ่งยุคประวัติศาสตร์เกาหลีออกเป็น ดังนี้

ยุคที่ 1 หรือยุคสามอาณาจักร เมื่อ 109 ปีก่อนคริสตศักราชจีนได้เข้ายึดดินแดนที่เรียกว่า "โลลัง" เป็นเมืองขึ้น ดินแดนส่วนอื่นๆในคาบสมุทรแบ่งการปกครองออก เป็น 3 อาณาจักร คือ โคคูเรียว, แพ็กเจ, และชิลลลา ทั้ง 3 อาณาจักรเป็นอิสรำม่ขึ้นต่อกันและแย่งชิงความเป็นใหญ่อยู่ตลอดเวลา

ยุคที่ 2 หรือยุคอาณาจักรชิลลา เป็นยุคทองของเกาหลีเพราะได้มีการพัฒนาสังคมส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีไม่ว่าจะเป็นทางด้านจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรมให้เจริญรุ่งเรือง

ยุคที่ 3 หรือยุคอาณาจักรโคเรียว เป็นยุคที่เกาหลีตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีน แต่เมื่อจีนอ่อนแอลง ญี่ปุ่นจึงถือโอกาสรุกรานเกาหลี ดังนั้นเกาหลีจึงตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น ถึง 35 ปี นายพลลีชองเกสามารถกอบกู้เอกราชได้สำเร็จและจัดตั้งราชวงศ์โชซอนขึ้นมา คำว่า "KOREA" นั้นอันที่จริงก็มาจาก "โคเรียว" นั่นเอง

ยุคที่ 4 หรือราชวงศ์โชซอน ในยุคนี้ประเทศมหาอำนาจรอบด้านเกาหลีต้องการยึดครองเกาหลีเป็นรัฐกันชน ในที่สุดญี่ปุ่นผนวกเกาหลีเข้าเป็นดินแดนของตน ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นใช้เกาหลีเป็นคลังอาวุธเพื่อสนับสนุนกองทัพตนเอง จนเมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามในปี 1945 เกาหลีจึงได้รับอิสรภาพ

ยุคหลังสงครามโลกจนถึงยุคปัจจุบัน ช่วงที่เกาหลีเป็นเมืองขึ้นญี่ปุ่นนั้นประชาชนเกาหลีหลายกลุ่มได้ไปขอความช่วยเหลือจากต่างชาติหลายสาย ได้แก่ เสรีนิยมและคอมมิวนิสต์ ภายหลังได้รับเอกราชจากญี่ปุ่นจึงเกิดปัญหาขัดแย้งจนไม่สามารถตกลงกันได้ เกาหลีจึงถูกแบ่งพื้นที่ออก เป็น สองส่วนโดยใช้เส้นขนานที่ 38 เขตแดนทางเหนือจัดตั้งเป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ( เกาหลีเหนือ ) ภายใต้การปกครองระบอบสังคมนิยม ส่วนเขตแดนทางใต้จัดตั้งเป็น ส าธารณรัฐเกาหลี ( เกาหลีใต้ ) ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ความขัดแย้ง ดังกล่าว นำไปสู่สงครามเกาหลีระหว่างปี พ.ศ. 2493 – 2496 และทำให้เกาหลียังคงแบ่งเป็นสองประเทศจนถึงปัจจุบันนี้

ปัจจุบันชนชาติเกาหลีแบ่งออกเป็น 2 ประเทศ :

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (Democratic People's Republic of Korea: DPRK) หรือ เกาหลีเหนือ (North Korea) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี มีพรมแดนทางใต้ติดกับประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเคยเป็นชาติเดียวกันจนถึงปี พ.ศ. 2489 พรมแดนทางเหนือส่วนใหญ่ติดกับประเทศจีน และมีส่วนเล็กน้อยติดกับประเทศรัสเซีย
ภายในประเทศมักเรียกว่า Pukchosŏn: ปุกโชซอน (โชซอนเหนือ; 북조선; 北朝鮮) และมักใช้คำว่า Bukhan: บุกฮัน (ฮันเหนือ; 북한; 北韓) ในเกาหลีใต้
Kanmunee Srivisarnprob (Roytavan) : Translator
กาญจน์มุนี ศรีวิศาลภพ (ร้อยตะวัน) : แปลและเรียบเรียง
Thaks for data from http://en.wikipedia.org/wiki/Gwanggaeto_Stele
http://www.lifeinkorea.com/information/history1.cfm

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.